หน้าเว็บ

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข้อมูล 77 จังหวัด แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข้อมูล 77 จังหวัด แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ตะลุยโมร็อคโคที่ อ่าวคุ้งวิมาน กับพักสบายๆ ที่ อัล เมดิน่า บีช เฮ้าส์

ตะลุยโมร็อคโคที่ อ่าวคุ้งวิมาน แล้วนอนเอนกายแบบผู้มีสไตล์ที่ ” อัล เมดิน่า บีช เฮ้าส์ ” จังหวัดจันทบุรี
ตะลุยโมร็อคโคที่ อ่าวคุ้งวิมาน กับพักสบายๆ ที่ อัล เมดิน่า บีช เฮ้าส์
มนุษย์ออฟฟิศหลายคนใฝ่ฝันอยากจะไปท่องเที่ยวต่างแดนกับก๊วนเพื่อนฝูง แต่เพราะงานรัดตัว แถมค่าใช่จ่ายก็ไม่ใช่น้อยๆ จึงทำให้หลายคนเลือกที่จะตระเวนเที่ยวให้ทั่วไทย แต่จะมีที่ไหนในบ้านเราที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้บินลัดฟ้าไปเมืองนอกเมืองนากันบ้าง
ตะลุยโมร็อคโคที่ อ่าวคุ้งวิมาน กับพักสบายๆ ที่ อัล เมดิน่า บีช เฮ้าส์
งานนี้ถึงกับต้องพึ่งอาจารย์กู-ล(เกิ้ล) เพื่อสรรหาสถานที่สวยๆ ในประเทศไทย ที่จะให้ความรู้สึกเหมือนได้พักผ่อนยังต่างแดน หลังจากคลิกค้นหากันอยู่นานหลายชั่วโมง ในที่สุดก็มีที่เจ๋งๆ ซึ่งจะทำให้เราอยากคว้าชุดสีสดไปเดินกรุกรายอยู่ริมชายหาดแบบสาวโมร็อคโค
ตะลุยโมร็อคโคที่ อ่าวคุ้งวิมาน กับพักสบายๆ ที่ อัล เมดิน่า บีช เฮ้าส์
สถานที่ที่จะแนะนำในวันนี้อยู่ติดกับทะเล ของจังหวัดจันทบุรี ซึ่งก็คือ อ่าวคุ้งวิมาน อ่าวที่มีโค้งน้ำและภาพอาทิตย์อัสดงอันสวยงาม ชนิดที่ว่า ถ้าได้ไปแล้วครั้งนึงก็จะต้องติดใจจนอยากกลับไปสัมผัสอีกเป็นรอบที่สอง
สำหรับการเดินทางไปจังหวัดจันทบุรี ด้วยเส้นทางตัดใหม่จากชลบุรี สามารถย่นระยะเวลาในการนั่งนิ่งๆ ได้เกือบ 1 ชั่วโมง แถมสองข้างทางก็ยังน่ารื่นรมย์ด้วยบ้านช่องห้องหอที่ดูแล้วก็คล้ายกับเมือง หลวง เพียงแต่จะเต็มไปด้วยดินสีแดงๆ ที่เปื้อนตามตัวบ้าน แต่นั่นก็เป็นภาพที่มอง
ตะลุยโมร็อคโคที่ อ่าวคุ้งวิมาน กับพักสบายๆ ที่ อัล เมดิน่า บีช เฮ้าส์
เรามาถึงยังอ่าวคุ้งวิมาน ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี ในช่วงบ่ายแก่ ซึ่งสุดโค้งน้ำมีที่พักสุดหรูอย่าง อัล เมดิน่า บีช เฮ้าส์ ที่จะทำให้เรารู้สึกเหมือนได้นอนหลับพักผ่อนยังต่างบ้านต่างเมือง เนื่องจากรีสอร์ตแห่งนี้มีสไตล์การตกแต่งด้วยสไตล์โมร็อคโค
ตะลุยโมร็อคโคที่ อ่าวคุ้งวิมาน กับพักสบายๆ ที่ อัล เมดิน่า บีช เฮ้าส์
ห้องพักแต่ละห้องจะมีการชื่อเรียกที่แตกต่างกัน โดยตั้งชื่อตามเมืองต่างๆ ของประเทศโมร็อคโค ไม่ว่าจะเป็นห้อง มาราเกซ (มาลาเค), ซาเล่ย์ หรือ เฟส ก็ล้วนแต่มีการตกแต่งให้สวยงามกันคนละแบบ สีขาวของตัวอาคารดูจะเข้ากับโมเสดและเครื่องประดับสีฉูดฉาด
ตะลุยโมร็อคโคที่ อ่าวคุ้งวิมาน กับพักสบายๆ ที่ อัล เมดิน่า บีช เฮ้าส์
นอกจากชื่อห้องพักจะไม่เหมือนกันแล้ว ในเรื่องของการตกแต่งก็ยังให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน โดยบางห้องให้ความรู้สึกแบบโมร็อคโคจ๋า ด้วยกระเบื้องโมเสดสีแจ่มๆ ถ้วยชามแนวประณีต และตู้เตียงแบบโบราณ ขณะที่บางห้องยังคงคอนเซ็ปต์บ้านพักริมทะเล ด้วยผ้าปูเตียงสีพาสเทล และโคมไฟเปลือกหอย โดยจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของอัลเมดิน่าก็ยังอยู่ที่อ่างจากุซซี่ส่วนตัว ตรงระเบียงห้องพักที่สามารถมองเห็นวิวทะเล ซึ่งเหมาะแก่การมาผ่อนคลายกับคนรัก และเพื่อนสนิทที่สามารถชวนกันมานอนแช่น้ำพร้อมเล่นไพ่เขาๆ กันในยามเย็น
ตะลุยโมร็อคโคที่ อ่าวคุ้งวิมาน กับพักสบายๆ ที่ อัล เมดิน่า บีช เฮ้าส์
ได้ชื่นชมกับห้องพักพอหอมปากหอมคอ ก็ลองเปลี่ยนชุดเก่งมาสัมผัสกับหาดทรายขาว ที่ทอดตัวยาวเป็นโค้งน้ำสวย พอได้มองวิวสวยๆ คู่กับตัวที่พักสีขาวสะอาด ยิ่งทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เหมือนได้บินข้ามโลกไปแช่น้ำในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และแม้ว่าทรายของอ่าวคุ้งวิมานอาจยังไม่ละเอียดถี่ยิบ เหมือนทะเลแถบอันดามัน แต่ทรายที่นี่ก็ถือว่าสวยใช้ได้ เข้ากับน้ำทะเลสีฟ้ามรกตอย่างดี
ตะลุยโมร็อคโคที่ อ่าวคุ้งวิมาน กับพักสบายๆ ที่ อัล เมดิน่า บีช เฮ้าส์
เมื่อได้สัมผัสสายน้ำและสายลมอยู่ พักใหญ่ ก๊วนนักท่องเที่ยวจากเมืองกรุงก็ต้องหยุดนิ่งกับแสงแดดที่ค่อยๆ อ่อนลง โดยภาพที่อยู่ตรงหน้าคือพระอาทิตย์ยามเย็นที่กำลังจะลับขอบฟ้า โดยมีโขดหินไม่ใหญ่ไม่โตมาเป็นส่วนประกอบให้อาทิตย์อัสดงในครั้งนี้น่าหยุด มองยิ่งขึ้น และนี่ก็ถือเป็นช็อตเด็ดของการมาเยือนอ่าวคุ้งวิมานที่คุณไม่ควรพลาด
ตะลุยโมร็อคโคที่ อ่าวคุ้งวิมาน กับพักสบายๆ ที่ อัล เมดิน่า บีช เฮ้าส์
ถึงเวลาปิดท้ายทริปต่างแดนในเมืองไทย ด้วยการแต่งตัวสวยแล้วเดินกินลมชมบรรยากาศโค้งๆ มนๆ ใต้แสงจันทร์ของอัลเมดิน่าจะเป็นอีกหนึ่งความรู้สึกที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือน ไปเยือนโมร็อคโคแบบไม่ต้องควักตังจ่ายค่าตั๋ว แต่เหนือสิ่งอื่นใดการได้ดินเนอร์ใต้แสงเทียนบนดาดฟ้าโล่งสีขาวสะอาดตา ซึ่งมีอาหารทะเลรสชาติเผ็ดร้อนจะช่วยทำให้ค่ำคืนนี้น่าจดจำจนยากที่จะลืมเลือน
ตะลุยโมร็อคโคที่ อ่าวคุ้งวิมาน กับพักสบายๆ ที่ อัล เมดิน่า บีช เฮ้าส์
บทความน่าอ่านจาก http://www.emaginfo.com ร่วมกับ travel.mthai.com
www.emaginfo.com
View Larger Map

ข้อมูลจาก : http://travel.mthai.com/

เชิญเที่ยว งานประเพณีรับบัว 2556

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกรุงเทพมหานคร ร่วมกับอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำหนดจัด งานประเพณีรับบัว ประจำปี 2556 ในระหว่างวันที่ 15-18 ตุลาคม 2556 ณ บริเวณที่ว่าการอำเภอบางพลี ถึงบริเวณวัดบางพลีใหญ่ใน จังหวัดสมุทรปราการ
เชิญเที่ยว งานประเพณีรับบัว 2556
นางปานจิตร สันทัดกลการ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกรุงเทพมหานคร กล่าวเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมงานประเพณีรับบัว ประจำปี 2556 ประเพณีท้องถิ่นที่สืบทอดกันมาอย่างช้านานที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกและแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากการแสดงน้ำใจไมตรีต่อกันระหว่างคนไทยในท้องถิ่นกับคน มอญพระประแดงซึ่งทำนาอยู่ที่ตำบลบางแก้ว ครั้นถึงช่วงวันออกพรรษา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนมอญพระประแดง จะต้องเดินทางเพื่อกลับทำบุญที่อำเภอพระประแดง โดยจะเก็บดอกบัวเพื่อนำกลับไปถวายพระและฝากเพื่อนบ้าน เพื่อแสดงถึงความมีน้ำใจต่อกัน คนไทยในท้องถิ่นจึงร่วมกันเก็บดอกบัวมอบให้คนมอญ นับแต่นั้นมา คนมอญพระประแดงและคนในท้องถิ่น ต่างพร้อมใจพายเรือเก็บดอกบัวร่วมกันที่อำเภอบางพลีและนำกลับมานมัสการองค์ หลวงพ่อโต จึงเป็นที่มาของประเพณีรับบัว ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีในช่วงวันออกพรรษา ตรงกับวันขึ้น 11 ค่ำ ถึงวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11
งานประเพณีรับบัว 2556
ดังนั้นแล้วเพื่อเป็นการสืบทอดประเพณีอันดีงามไม่ให้เลือนหายไปกับสังคมปัจจุบัน งานประเพณีรับบัว ประจำปี 2556 จึงกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 15-18 ตุลาคม 2556 ณ บริเวณที่ว่าการอำเภอบางพลี ถึงบริเวณวัดบางพลีใหญ่ใน จังหวัดสมุทรปราการ โดยภายในงานจะพบกับกิจกรรมมากมาย อาทิเช่น ถนนคนเดิน การล่องเรือชมคลองสำโรง การแสดงแสง สี เสียง เรื่องราวบางพลี และการประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่ง นอกจากนั้นแล้วนักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดการสักการะขอพรจากองค์หลวงพ่อโตภายใน พระอุโบสถของวัดบางพลีใหญ่ใน เพื่อเป็นการเสริมสิริมงคลในชีวิตอีกด้วย
เชิญเที่ยว งานประเพณีรับบัว 2556
ททท. จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวที่สนใจ ร่วมเป็นหนึ่งในการสืบทอดประเพณีรับบัว ประจำปี 2556 ในระหว่างวันที่ 15-18 ตุลาคม 2556 ณ บริเวณที่ว่าการอำเภอบางพลี ถึงบริเวณวัดบางพลีใหญ่ใน จังหวัดสมุทรปราการ ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกและแห่งเดียวในประเทศไทยให้คงอยู่สืบไป ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โทรศัพท์ 0 2337 4059

ข้อมูลจาก : http://travel.mthai.com/

วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2556

แพ 500 ไร่ ที่ เขื่อนรัชชประภา ติดที่เที่ยวอันดับโลก

หน้าฝนทั้งที ไม่มีที่เที่ยวไหนจะเหมาะเหม็งไปกว่าการได้ไปลองเรือที่ เขื่อนรัชชประภา หรือ เขื่อนเชียวหลาน เพื่อสัมผัสไอดิน และกลิ่นฝน อีกแล้ว
แพ 500 ไร่ ที่ เขื่อนรัชชประภา ติดที่เที่ยวอันดับโลก
เขื่อนรัชชประภา เป็นภูเขาหินปูนทียอดเขาตั้งฉากกับผืนน้ำสีเขียวมรกต พื้นที่แห่งนี้ได้รับสมญานามว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย” ตั้งอยู่ ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน ซึ่งห่างจากตัวเมืองจังหวัดสุราษฏร์ธานี ประมาณ 84 กิโลเมตร นอกจากความงานที่ลือเลื่องของ เขื่อนรัชชประภา แล้ว การมาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับมันคงให้ความรู้สึกถึงธรรมชาติที่ไม่สมบูรณ์ เหมือนกินลอดช่องไม่ใส่กะทิ ดังนั่นการได้พักค้างคืนที่นี่ ดูจะเป็นอะไรที่สมเหตุสมผลของการมาพักผ่อนแบบเต็มที่อย่างที่สุด
แพ 500 ไร่ ที่ เขื่อนรัชชประภา ติดที่เที่ยวอันดับโลก
และทริปนี้เราจะขอพาไปรู้จักกับที่พักแบบแพสุดไฮโซ กันที่ แพ 500 ไร่ เป็นแพพักท่ามกลางธรรมชาติ บนเนื้อที่ 500 ไร่ ใกล้ที่สุดกับต้นน้ำ ซึ่งเป็นบริเวณที่ได้รับการขนามนามว่า “จูราสสิค ปาร์ค” ซึ่งมีความหมายของคำนี้ คือ เป็นพื้นที่ ที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก ทั้งน้ำ ป่าไม้ และสัตว์ป่า และที่สำคัญยังติดหนึ่งในอันดับ 10 สถานที่น่าท่องเที่ยวแบบธรรมชาติของโลก จากนิตยสารท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง Lonely Planet มาแล้วด้วย
แพ 500 ไร่ ที่ เขื่อนรัชชประภา ติดที่เที่ยวอันดับโลก
จุดเด่นของแรกที่นี่ คือ ความเป็นส่วนตัว แพ 500 ไร่ ได้รับการออกแบบให้ทางเดินอยู่ด้านหลังห้องพัก เพื่อให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด อีกทั้งยังมีเรือคายัค ส่วนตัวประจำห้องพักทุกห้องด้วย นอกจากนี้ อีกหนึ่งความพิเศษอีกอย่าง ก็คือ ความสงบควบคู่ไปกับความสวยงาม ด้วยการออกแบบการจัดวางห้องพัก ร้านอาหาร รูปแบบการให้บริการและลักษณะกลุ่มลูกค้าที่เข้าพัก ที่เน้นการพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติ ล้วนแต่ช่วยให้บรรยากาศในแพสงบ
แพ 500 ไร่ ที่ เขื่อนรัชชประภา ติดที่เที่ยวอันดับโลก
อีกจุดเด่นอีกอย่างของ แพ 500 ไร่ คือ ผู้พักอาศัยสามารถชม วิวทิวทัศน์ภายในห้องพัก และหน้าระเบียงห้องสามารถรับรู้ สัมผัสบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติเพียวๆ และหมอกยามเช้าสุดตื่นตาแบบ 360 องศา กันเลยทีเดียว
แพ 500 ไร่ ที่ เขื่อนรัชชประภา ติดที่เที่ยวอันดับโลก
แพ 500 ไร่ ที่ เขื่อนรัชชประภา ติดที่เที่ยวอันดับโลก
แพ 500 ไร่ ที่ เขื่อนรัชชประภา ติดที่เที่ยวอันดับโลก
สำหรับ ท่านใดอยากไปสัมผัสธรรมชาติแบบบริสุทธิ์ สูดออกซิเจนได้เต็มปอด ที่นี่นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อน ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามสุดยอดในไทย และระดับโลก ทุกขาเที่ยวทุกท่านจะได้รับรอยยิ้ม และความสุขกลับไปอย่างแน่นอน
แพ 500 ไร่ ที่ เขื่อนรัชชประภา ติดที่เที่ยวอันดับโลกแพ 500 ไร่ ที่ เขื่อนรัชชประภา ติดที่เที่ยวอันดับโลกแพ 500 ไร่ ที่ เขื่อนรัชชประภา ติดที่เที่ยวอันดับโลกแพ 500 ไร่ ที่ เขื่อนรัชชประภา ติดที่เที่ยวอันดับโลก
สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.500rai.com

ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี อันซีนแห่งสีสันธรรมชาติสร้าง

ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี ชมทุ่งดอกไม้ตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ความอุดมสมบูรณ์ที่ควรค่าแก่การศึกษา
เราๆ ท่านๆ คงเคยได้ยินชื่อของ “หนองหาน” กันมานานนม แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่สับสนหรือยังไม่รู้ว่าในภาคอีสานของเรานี้ ก็มีทั้ง “หนองหาน” สถานที่สำคัญประจำ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี และ “หนองหาร” หนองน้ำใหญ่ที่มีตำนานผาแดงนางไอ่ และความเชื่อเรื่องพญานาค ใน จ.สกลนคร ที่ยังคงเล่าขานต่อเนื่องกันมา จนถึงทุกวันนี้
ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี อันซีนแห่งสีสันธรรมชาติสร้าง
หนองหาน ที่เราจะพาไปเที่ยวคราวนี้ คือ ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ใน อ.กุมภวาปี กับบางส่วนในพื้นที่ อ.ประจักษ์ศิลปาคมของ จ.อุดรธานี ความอุดมสมบูรณ์ของบึงหนองหานถือเป็นต้นแบบที่น่าสนใจต่อการศึกษาระบบ นิเวศน์วิทยา เพราะที่นี่ชัดเจนความสัมพันธ์ระหว่างพืชพรรณและสัตว์ กลับคืนมาเป็นผลิตผลให้ชาวบ้านได้เก็บเกี่ยวเลี้ยงชีพและหล่อเลี้ยงชุมชนจน เป็นภาพวิถีชีวิตของชาวหนองหานมานานปี กาลเวลาผ่านไปวิถีชาวบ้านกลายเป็นความงดงามตามธรรมชาติในยุคที่ผู้คนโหยหา สิ่งที่เลือนหาย ในขณะที่ความอุดมสมบูรณ์ของบึงหนองหานยังคงอยู่ วงจรชีวิตของ บัวแดง หรือ “บัวสาย” ที่บึงหนองหานจึงเป็นประจักษ์พยานถึงความอุดมสมบูรณ์ที่ควรค่าแก่การศึกษา นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมบัวแดงที่บึงหนองหานจึงงอกงามทั่วท้องน้ำไปไกล สุดลูกหูลูกตานับเป็นหมื่นๆ ไร่ (นี่ยังไม่ถึงครึ่งของบึงเลยด้วยซ้ำ) เพื่อที่การชม ทุ่งทะเลบัวแดง แหล่งชมทุ่งดอกไม้ตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จะได้เต็มอิ่มและเพลิดเพลินกว่าการนั่งเรือชมความงามอย่างเดียว
ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี อันซีนแห่งสีสันธรรมชาติสร้าง
เรามาสัมผัส ทะเลบัวแดง หนองหานภุมภวาปี ตามคำบอกเล่าของคนที่มาก่อนเรา และหอบความประทับใจกลับไปบอกต่อ และด้วยความที่ได้รับการโปรโมทจากททท.ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนแหล่ง ใหม่เริ่มจะคุ้นเคยในหมู่นักท่องเที่ยว ด้วยความงามอันเป็นเอกลักษณ์ของดอกบัวที่ธรรมชาติรังสรรค์ เมื่อสีแดงอมชมพูของดอกบัวเบ่งบานขึ้นพร้อมๆ กัน ก็จะกลายเป็นภาพความงามอันวิจิตรสุดลูกลูกตาราวกับเนรมิตบนผืนผ้าใบ ขณะที่บรรยากาศโดยรอบบึงหนองหาน ก็สะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำตาม ธรรมชาติด้วยพันธุ์ปลาน้ำจืด สายพันธุ์นกท้องถิ่น และพืชน้ำอีกจำนวนมากอันเป็นหัวใจของระบบนิเวศน์ที่หล่อเลี้ยง ทะเลบัวแดง และวิถีชุมชนให้ยั่งยืนจนถึงทุกวันนี้
ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี อันซีนแห่งสีสันธรรมชาติสร้าง
หากเราเป็นคนต่างถิ่นที่หลงเข้าไปใน อำเภอกุมภวาปี ช่วงราวๆ กลางเดือน – ปลายเดือนธันวาคม ของทุกปี เราอาจพบเห็นชาวบ้านกลุ่มใหญ่ของ ต.บ้านเดียม มาออกันอยู่เนืองแน่นบึงหนองหาน ก็เพราะในช่วงนี้ของทุกปีจะเป็นช่วงใกล้เวลาที่บึงหนองหานจะเปิดบ้านต้อนรับ นักท่องเที่ยวที่หลั่งใหลกันมาล่องเรือชม “ทะเลบัวแดง” ชาวบ้านเขาจึงเตรียมความพร้อมบึงหนองหานด้วยการร่วมแรงร่วมใจระดมเก็บ สาหร่ายกลางพื้นที่นับหมื่นไร่ เพื่อให้ดอกบัวแดงโผล่พ้นน้ำเบ่งบานงดงามอวดนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ใน ช่วงปีใหม่ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์นั่นเอง
ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี อันซีนแห่งสีสันธรรมชาติสร้าง
ในช่วงเดือนตุลาคม ถึง เดือนมีนาคม ของทุกปี ดอกบัวแดงในหนองหาน ซึ่งมีจำนวนมากจะงอกงามโผล่จากน้ำขึ้นมา โดยในเดือนตุลาคมบัวจะเริ่มแตกใบและเริ่มออกดอกตูมและบานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บัวจะออกดอกมีปริมาณมากที่สุดในช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ และค่อยๆ ลดปริมาณลงในเดือนมีนาคม และเข้าสู่ช่วง “บัวเน่า” หรือช่วงที่บัวเก่าล้มตายกลายเป็นอาหารของบัวชุดใหม่ ช่วงนี้เองจะมี “บัวหลวง” เข้ามาผลัดเปลี่ยนให้ความงามที่ต่างออกไป แต่ชาวบ้านจะชอบใจเพราะเป็นฤดูเก็บเกี่ยวผลลิตจากบัวไปขายสร้างรายได้กลับ สู่ครอบครัว ก่อนที่บัวแดงชุดใหม่จะรอวันเติบโตแผ่ใบโผล่พ้นน้ำพร้อมกับดอกตูมให้เราตั้ง ตารอตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม ช่วงเวลานั้นเองที่ถือว่าสัญญาณแห่งทะเลบัวแดงฤดูกาลใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี อันซีนแห่งสีสันธรรมชาติสร้าง
การเดินทางไปชม ทะเลบัวแดง เพื่อความเพลิดเพลินเจริญใจอย่างคุ้มค่าควรมีการวางแผนตั้งแต่การเดินทางและเวลาที่เหมาะสมในการชม ด้วยธรรมชาติของดอกบัวสาย หรือบัวแดง นั้นจะบานในช่วงเช้าตรู่จนถึงเวลาประมาณ 11.00 น. ช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงเวลาที่ดอกบัวบานสวยที่สุด หากเป็นคนท้องถิ่นอุดรนั้นจะรู้ดีว่าถ้าใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองประมาณ 45 นาทีก็จะถึงบ้านเดียม แต่คนต่างถิ่นที่กลัวว่าการเดินทางจะเป็นอุปสรรค ที่ต.บ้านเดียมเขาก็เตรียมโฮมสเตย์ไว้รอต้อนรับด้วยบรรยากาศและการดูแลแบบ ชาวบ้านแท้ๆ
ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี อันซีนแห่งสีสันธรรมชาติสร้าง
การนั่งเรือชม ทะเลบัวแดง ที่นี่ต้องนับว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ แม้จะมีเวลาให้ชมอย่างจำกัด (ราวๆ 45 นาที- 1 ชั่วโมงครึ่ง ตามแต่ประเภทของเรือที่เราเลือก) และหากดูเผินๆ เหมือนวิวรอบๆ ตัวจะมีแต่ดอกบัวสีแดงๆ แต่หากใช้หัวใจสัมผัสเพิ่มเติมจากสองตา จะเห็นความแตกต่างหลากหลายของบัวที่เติบโต เห็นนกกระสา นกกระยาง อ้อยอิ่งดิ่งขาละเลียดปลาในบึงอย่างไม่รีบร้อนเสมือนเป็นรังของมันเอง เห็นวิถีชีวิตชาวบ้านเดียมที่ยังคงลอยเรือออกไปทำนา หาปลา ตัดอ้อย และหากเช่าเรือพิเศษที่มีบริการอาหารให้ทานบนเรือด้วยแล้วล่ะก็จะวิเศษสุดๆ เพราะเมนูรสแซ่บแบบอุดรทั้งส้มตำ ต้มยำปลาช่อน ตำไหลบัว จะยิ่งอร่อยขึ้นด้วยบรรยากาศที่หาจากบึงอื่นๆ อีกไม่ได้แล้วในตอนนี้
ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี อันซีนแห่งสีสันธรรมชาติสร้าง
และเมื่อถึงช่วงเดือนมกราคม ของทุกปี ที่ดอกบัวบานชูช่อแตกกอเต็มบึง ทางจังหวัดอุดรธานี เขาจะจัดเทศกาล ทะเลบัวแดงบาน หนองหานกุมภวาปีขึ้นเป็นประจำ และในปีนี้ก็เช่นกัน โดยงานจะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 11-13 มกราคม ด้วยกิจกรรมสนุกๆ มากมาย อาทิ การประกวดวาดภาพและภาพถ่ายทะเลบัวแดง, การประกวดวงดนตรีโปงลาง พร้อมร่วมกันสักการะพระมหาธาตุเทพจินดาหรือพระธาตุบ้านเดียม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองของชาวบ้านเดียมเพื่อความเป็นสิริมงคล และแถมท้ายให้เป็นพิเศษสำหรับคู่รักที่เตรียมจะเข้าพิธีวิวาห์ ที่ทะเลบัวแดงเขาเตรียมจะเนรมิตบึงตระการตาให้กลายเป็นสถานที่จัดงานสมรส หมู่ที่โรมแนติกไปด้วยสีแดงอมชมพูของดอกบัวที่รับรองความหวานไม่แพ้ที่ไหนๆ ในช่วงวันวาเลนไทน์ในเดือนกุมภาพันธ์นี้อีกด้วย
ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี อันซีนแห่งสีสันธรรมชาติสร้าง
ทะเลบัวแดง หนองหานกุมภวาปี ห่างจากจังหวัดอุดรธานี ประมาณ 45 ก.ม. การเดินทางสามารถเดินทางจาก อ.เมืองอุดรธานี โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 2 (อุดรธานี-กุมภวาปี) ถึงกิโลเมตรที่ 26 เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางห้วยสามพาด-อำเภอประจักษ์ศิลปาคม ประมาณ 18 กิโลเมตร นอกจากทะเลบัวแดงแล้วที่ อำเภอกุมภวาปี และสำหรับรถประจำทาง ก็สามารถนั่งรถทัวร์กรุงเทพ-อุดรธานี แล้วไปลงที่อำเภอกุมภวาปี หลังจากนั้นก็เหมารถสองแถวในอำเภอมาเที่ยวเทศกาลดอกบัวแดง ใครที่ต้องการค้างคืนก็สามารถติดต่อบ้านพักโฮมสเตย์จากชาวบ้านได้ตลอดเวลา เช่นกัน
ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี อันซีนแห่งสีสันธรรมชาติสร้าง    ภาพโดย คุณสุรพล สุภาวัฒนกุล
ลองได้ไปสัมผัส ทะเลบัวแดง หนองหานกุมภวาปี กันดูสักครั้งแล้วจะเข้าใจว่า ทำไมตากล้องมือโปรทั้งหลายจึงรักที่จะมาถ่ายรูปกันนักหนา และทำไมใครที่เคยมาแล้วถึงอยากกลับมาใหม่ ถ้าไม่ใช่เพราะเสน่ห์อันเรียบง่ายของวิถีชาวบ้านเดียม ที่ซ่อนไว้ภายใต้กอบัว กว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้…
ขอบคุณภาพจาก thaifishing.net / ททท. / phototech-mag.com
บทความน่าอ่านจาก http://www.emaginfo.com ร่วมกับ travel.mthai.com

รวมที่เที่ยวหน้าหนาว นักท่องเที่ยวห้ามพลาด!

ในที่สุด ก็ใกล้ถึงช่วงปลายฝน ต้นหนาว กันแล้ว ช่วงเวลาที่ว่านี้ คงถูกอกถูกใจขาเที่ยวอย่างแน่นอนอย่างที่หลายๆ คน ทราบกันดีว่า ช่วงหน้าหนาวปลายปี เป็นช่วงเหมาะกับการท่องเที่ยวมากที่สุด จะบุกขึ้นดอยก็สวยแบบเย็นๆ หรือลงทะเลเพื่อพบน้ำทะเลใส ก็งามไม่ด้อยไปกว่ากัน แถมเป็นอีกช่วงเวลาในการถ่ายรูปที่สวยที่สุดอีกด้วย!!!
แต่ขึ้นชื่อว่า “ฤดูหนาว” กำลังมาเยือน นักท่องเที่ยวควรที่จะไปสัมผัสความเย็นบนดอยสูงน่าจะเหมาะสมที่สุด ถึงถูกต้องตามฤดูกาลท่องเที่ยวในหน้าหนาว ยังตัดสินใจไม่ได้ว่า จะไปท้าความหนาวเย็นกันที่ไหนดี วันนี้ทีมงานมีตัวเลือกที่เที่ยวน่าสนใจ กับ รวมที่เที่ยวหน้าหนาว นักท่องเที่ยวห้ามพลาด! ให้เหล่าบรรดาสานุแฟน ได้ลองไปพิจารณากันนะครับ
1. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
รวมที่เที่ยวหน้าหนาว นักท่องเที่ยวห้ามพลาด!
ชื่อนี้มักจะเป็นติดอันดับต้นๆ ของการท่องเที่ยว เดิมชื่อว่า ดอยหลวง หรือ ดอยอ่างกา ดอยหลวง หมายถึงภูเขาที่มีขนาดใหญ่ ส่วนที่เรียกว่า ดอยอ่างกานั้น เพราะมีหนองน้ำอยู่แห่งหนึ่งลักษณะเหมือน อ่างน้ำ มีฝูงกาไปเล่นน้ำกันมากมาย จึงเรียกว่า อ่างกา หรือ ดอยอ่างกา
ดอยอินทนนท์ เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย (2,599 เมตร) จึงทำให้มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ มี น้ำตกแม่ยะ น้ำตกแม่กลาง น้ำตกวชิรธาร น้ำตกสิริภูมิ ถ้ำบริจินดา โครงการหลวงอินทนนท์ และ เส้นทางศึกษาธรรมชาติหลายจุด

2. ดอยอ่างขาง
รวมที่เที่ยวหน้าหนาว นักท่องเที่ยวห้ามพลาด!
เป็นที่ตั้งสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ภายในสถานีมีโครงการวิจัยผลไม้ ไม้ดอกเมืองหนาว งานสาธิตพืชไร่ แปลงทดลองปลูกไม้ผลเมืองหนาว สวนบอนไซ มีการจำหน่ายผลิตผลพืชผักเมืองหนาวที่ปลูก ในบริเวณโครงการฯ ให้แก่นักท่องเที่ยวตามฤดูกาล ในสถานีฯ มีที่พัก และมีสถานที่กางเต็นท์บริการแก่นักท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ

3. เขาค้อ – อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์
รวมที่เที่ยวหน้าหนาว นักท่องเที่ยวห้ามพลาด!
เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ชื่อว่าเขาค้อเป็นเพราะ ป่าบริเวณนี้มีต้นค้อขึ้นอยู่มาก เนื่องจากภูมิอากาศบนเขาค้อเย็นตลอดปี ค่อนข้างเย็นจัดในฤดูหนาว และมีทัศนียภาพสวยงาม จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่ง ของเพชรบูรณ์ สถานที่น่าสนใจบนเขาค้อได้แก่ อนุสาวรีย์จีนฮ่อ ฐานอิทธิเจดีย์ พระบรมสารีริกธาตุเขาค้อ หอสมุดนานาชาติเขาค้อ พระตำหนักเขาค้อ น้ำตกศรีดิษฐ์ สวนสัตว์เปิดเขาค้อ และเนินมหัศจรรย์ หมู่บ้านคุ้มจุดชมวิวกิ่วลม หมู่บ้านนอแล และหมู่บ้านขอบด้ง หมู่บ้านหลวง

4. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
รวมที่เที่ยวหน้าหนาว นักท่องเที่ยวห้ามพลาด!
ด้วยสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี มีเทือกเขาและภูเขาสูง สลับซับซ้อน ครอบคลุมอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภูเขาที่สูงที่สุด คือ ดอยช้าง เป็นป่าต้นน้ำลำธาร มีลำห้วยน้อยใหญ่มากมาย ฤดูหนาวอากาศเย็น ลมแรง

5. ภูชี้ฟ้า-ผาตั้ง จ.เชียงราย
รวมที่เที่ยวหน้าหนาว นักท่องเที่ยวห้ามพลาด!
ภูชี้ฟ้า เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นอีกแห่งหนึ่ง มีลักษณะเป็นยอดเขาที่แหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า ยิ่งตอนที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นมาตรงระหว่างปลายยอดเขา จะดูเหมือน เสือคาบแก้วมาก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,628 เมตร ส่วนของหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว
รวมที่เที่ยวหน้าหนาว นักท่องเที่ยวห้ามพลาด!
ดอยผาตั้ง อยู่บนเทือกดอยผาหม่น เป็นจุดชมวิวสองฝั่งโขง ไทย-ลาว และทะเลหมอก บนดอยมีหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า โดยเฉพาะ ชาวจีนฮ่อนั้น อดีตเคยเป็น ส่วนหนึ่งของกองพล 93 ซึ่งอพยพเข้ามา ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ดอยผาตั้งนี้ ปัจจุบันประกอบอาชีพทางการเกษตร ปลูกพืชเมืองหนาว เช่น บ๊วย ท้อ สาลี่ แอปเปิ้ล

6. อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
รวมที่เที่ยวหน้าหนาว นักท่องเที่ยวห้ามพลาด!
เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่ง ของเมืองไทย เพราะมีสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ประกอบด้วยระบบนิเวศและ ภูมิประเทศหลากหลาย ทั้งทุ่งหญ้า ป่าสนเขา ป่าดิบ น้ำตกและ หน้าผาชมทิวทัศน์ ลักษณะเด่นของอุทยานฯ แห่งนี้คือเป็นภูเขาหินทราย ยอดตัด เป็นที่ราบขนาดใหญ่คล้ายใบบอนหรือรูปหัวใจ มีเนื้อที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร มีความสูง 400-1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จุดท่องเที่ยวประทับใจได้แก่ ผานกแอ่น ผาหล่มสัก ผาหมากดูด น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกถ้ำสอเหนือ-ใต้ สระอโนดาด เป็นต้น

7. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
รวมที่เที่ยวหน้าหนาว นักท่องเที่ยวห้ามพลาด!
ตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัดคือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย ไร่ภูหินร่องกล้ามียอดเขาสูง 1,617 เมตร มีทิวทัศน์สวยงาม ปกคลุมด้วยป่าเต็งรังป่าดิบเขา และป่าสนเขา มีสนสองใบและสนสามใบ ขึ้นปะปนกัน และพบกล้วยไม้ดอกไม้ป่าหลายชนิดขึ้นอยู่ตามลานหิน เคยเป็นศูนย์กลางที่ตั้งฐานที่มั่นการเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ที่ใหญ่ และสำคัญที่สุดของภาคเหนือ จุดที่น่าสนใจ ลานหินปุ่ม ลานหินแตก น้ำตกหมันแดง เป็นต้น

8. ทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอ – ดอยแม่เหาะ จ.แม่ฮ่องสอน
รวมที่เที่ยวหน้าหนาว นักท่องเที่ยวห้ามพลาด!
ดอยแม่อูคอ เป็นทุ่งดอกบัวตองที่มีพื้นที่ครอบคลุมเป็นเขากว้าง ประมาณ 1 พันไร่ ดอกบัวตองที่นี่เมื่อบานพร้อม ๆ กันในช่วงเดือน พฤศจิกายน-ธันวาคม จะเหลืองอร่ามปกคลุมทั่วทั้งภูเขา ดอยแม่เหาะ อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 10-8 ตรงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 84 เขตตำบลแม่เหาะ เป็นที่ตั้งของศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา จังหวัดแม่ฮ่องสอน บริเวณนี้ มีภูมิประเทศที่งดงาม มีชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง อยู่เป็นส่วนมาก ในเดือนพฤศจิกายน ถึงธันวาคม ของทุกปี ดอกบัวตอง หรือทานตะวันป่า จะบานสะพรั่ง ไปทั่วหุบเขา สวยงามมากทีเดียว

9. อุทยานแห่งชาติภูเรือ
รวมที่เที่ยวหน้าหนาว นักท่องเที่ยวห้ามพลาด!
เป็นภูเขาสูงใหญ่ บนยอดเขาเป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีต้นสนขึ้นสลับซับซ้อน มีลักษณะแปลกคือ มีส่วนหนึ่งเป็นผา ชะโงกยื่นออกมาเหมือน หัวเรือสำเภาใหญ่ อุทยานแห่งชาติภูเรือ จุดที่น่าสนใจบนอุทยานได้แก่ ผาโหล่นน้อย ภูผาสาด และทะเลภูเขา ผาซับทอง หรือ ผากุหลาบขาว เป็นหน้าผาสูงชัน และแหล่งน้ำซับที่มีพืชน้ำไลเคนสีเหลืองคล้ายสีทอง ขึ้นเต็มไปทั่ว น้ำตกห้วยไผ่ เป็นน้ำตกที่ไหลจากหน้าผาสูงชัน ยอดภูเรือ เป็นจุดสูงสุดในอุทยานฯ สามารถมองเห็น แม่น้ำเหืองและแม่น้ำโขงที่กั้นพรมแดนระหว่างไทย-ลาว

10. อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
รวมที่เที่ยวหน้าหนาว นักท่องเที่ยวห้ามพลาด!
พื้นที่วนอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ซึ่งตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ท้องที่อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์สภาพพื้นที่เป็นภูเขาสูงที่ป่าปกคลุมอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี การเดินทางขึ้นดอยค่อนข้างลำบาก แต่เมื่อขึ้นไปถึงแล้วจะพบดอกไม้ป่า พันธุ์ต่าง ๆ เช่น ดอกหงอนนาค ดอกไม้ดินต่าง ๆ สวยงามมาก แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่น้ำตกภูสอยดาว และลานสน

11. ปางอุ๋ง
รวมที่เที่ยวหน้าหนาว นักท่องเที่ยวห้ามพลาด!
หมู่บ้านรวมไทย เป็นหมู่บ้านโครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) ในพระบรมราชินูปถัมป์ของสมเด็จพระบรมราชินีนาถลักษณะพื้นที่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่บน ยอดเขาสูง ริมอ่างเก็บน้ำเป็นแนวสนที่ปลูกเรียงรายอย่างกลมกลืน ยามพระอาทิตย์ขึ้นจะสะท้อนผืนน้ำเป็นลำแสงสีทองผ่านแนวสนเขียวขจี งดงามจนถือได้ว่าเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดในเมืองไทย เปรียบได้กับ นิวซีแลนด์เมืองไทย และเมื่อได้สัมผัสกับแปลงพันธ์ไม้เมืองหนาวหลากสีสันที่ปลูกประดับในโครงการ ฯ ซึ่งเปรียบเสมือนกับ สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย ปางอุ๋ง …เมื่อฟากหนึ่งเป็นนิวซีแลนด์ และอีกฝั่งหนึ่งเป็นสวิสเซอร์แลนด์

12. ปาย
รวมที่เที่ยวหน้าหนาว นักท่องเที่ยวห้ามพลาด!
ในฤดูหนาวที่เยือนมาอีกรอบหนึ่งของเมืองไทย หลายๆ คนจัดแจงวางแผนบุกป่าผ่าเขา เพื่อค้นหาความเยือกเย็นที่ปีหนึ่งจะมีสัก ครั้งที่แน่ๆ เกือบทั้งหมดนั้นเดินทางขึ้นเหนือ จะไปที่ไหนก็ตามแต่ ที่นี่หลายคนบอกว่าไม่ควรพลาดอ.ปาย ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ปาย เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขา สูงตระหง่านเป็นรอยต่อชายแดนไทย-พม่า ฤดูหนาวอากาศเย็นจัด เมืองเล็กๆแห่งนี้มักปกคลุมด้วยสายหมอก ละอองน้ำจางๆ ยามเช้า บรรยากาศอันเงียบสงบ ทุ่งนาสีเขียว ท้องฟ้าสีคราม กับแสงแดดอุ่นๆ ที่ทอดผ่านม่านหมอกหนา แลเห็นต้นสนไม้ยืนต้นเมืองหนาวสูงใหญ่เป็นทิวแถวตามเชิงเขา วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของผู้คน ด้วยความเป็นเอกลักษณ์นี้ “ปาย” ได้ดึงดูดนักเดินทางให้มาสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งนี้

13. ภูทับเบิก
รวมที่เที่ยวหน้าหนาว นักท่องเที่ยวห้ามพลาด!
ตั้ง อยู่ที่ บ้านทับเบิก ต.วังตาล ห่างจากอ.หล่มเก่า 40 กม. และห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 97 กม. มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร และเป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ ชาวเพชรบูรณ์เรียกว่า “ภูทับเบิก
ภูทับเบิก มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา ป่าไม้ ต้นไม้เมืองหนาวและน้ำตก มีอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูง จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล โดยช่วงเข้าจะมองเห็นกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์

14. ผาชะนะได อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
รวมที่เที่ยวหน้าหนาว นักท่องเที่ยวห้ามพลาด!
“รับตะวันก่อนใครในสยาม” คำขวัญแห่ง ผาชะนะได ผาริมโขง นเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ดินแดนตะวันออกสุดสยาม
ผาชะนะได เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดใจด้วยหน้าผาที่ยื่นออกไปรับลมบนที่สูง ปกคลุมด้วยป่าสนสองใบ ทิวทัศน์เบื้องหน้าเป็นทิวเขาสลับซับซ้อน อีกหลายจุดชมวิวทางผ่านไปสู่ของ ผาชะนะได คือ ลานดอกไม้ดิน และการชมพะลานหิน ได้แก่ พะลานหินวัดภูอานนท์ พะลานถ้ำไฮ เป็นต้น หรือจะท่อง ป่าดงนาทาม ซึ่งมีความหลากหลายทางธรรมชาติ เป็นแหล่งเดินป่ายอดนิยมสำหรับนักผจญภัย และจุดสำคัญที่พลาดไม่ได้ คือ ทะเลหมอก คือหนึ่งไฮไลท์ของ ผาชะนะได เชื่อกันว่า ใครมีโอกาสเห็นพระอาทิตย์ขึ้นเป็นคนแรก เปรียบเสมือนการเพิ่มพลังให้ชีวิตโชติช่วงดังแสงที่ตัดเส้นขอบฟ้า ช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดของการเที่ยว ผาชนะได คือ ปลายฝนต้นหนาว (ปลายตุลาคม-กุมภาพันธ์) เพราะอากาศที่เริ่มเย็นทำให้ดอกไม้นานาชนิดบานสะพรั่ง

15. ดอยม่อนจอง
รวมที่เที่ยวหน้าหนาว นักท่องเที่ยวห้ามพลาด!
ขึ้นไปดอยรับลมหนาว หาวเป็นไอ บน ดอยม่อนจอง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นหนึ่งดอยที่หลายคนตั้งใจมาฝากรอยจารึก แม้ต้องฝ่าฟันเส้นทางเดินบน สันดอยไปสู่ยอดสูงสุดกว่า 3 กิโลเมตร แต่พี่ไทยก็ไม่เคยเหน็ดเหนื่อย ขอเพียงพิชิต ดอยม่อนจอง
ดอยม่อนจอง ตั้งอยู่ในเขตลึกของป่าอมก๋อย ทิศตะวันออกจรดเขื่อนภูมิพล ทิศตะวันตกติดกับถนนสายอมก๋อย-บ้านแม่ตื่น ทิศเหนือจรดกับพื้นที่อำเภอดอยเต่า ทิศใต้จรดกับลำห้วยแม่ตื่นที่ไหลลงสู่เขื่อนภูมิพล สูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย จุดสูงสุดของ ดอยม่อนจอง เรียกว่า หัวสิงห์ เพราะมีลักษณะคล้ายหัวสิงโตสูง และแน่นอนว่าสูงๆ อย่างนี้ ดอยม่อนจอง ก็หนีไม่พ้นสถานที่ที่ชมพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง แถมยามค่ำคืนยังสามารถนอนคุดคู้นับดาวกันตัวสั่น เพราะอากาศบน ดอยม่อนจอง นั้นหนาวมาก อมก๋อยว่าหนาวแล้ว พี่ม่อนจองของเราหนาวเสียยิ่งกว่า ฉะนั้นเสื้อผ้า อุปกรณ์คลายหนาวต่างๆ จัดให้พร้อม!

16. ดอยม่อนแจ่ม
รวมที่เที่ยวหน้าหนาว นักท่องเที่ยวห้ามพลาด!
ยอดดอยม่อนแจ่ม อยู่ใน ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ การเดินทางไม่ทุลักทุเล ใครมีรถพารถมาหย่อนไว้ แล้วเดินสูดบรรยากาศให้ฉ่ำปอด กอดภูเขา สูดเอากลิ่นดอกไม้กันได้เต็มที่ เพราะพื้นที่บน ดอยม่อนแจ่ม ไม่ กว้างใหญ่นัก เดินยังไม่ทันเมื่อยก็ได้สัมผัสทิวทัศน์โดยรอบ เตร็ดเตร่ทุกมุมแล้วก็นั่งจิบกาแฟ แชร์ประสบการณ์ สำราญไอเย็นกันแบบเบาๆ
จุดชมวิวหลักๆ ของ ดอยม่อนแจ่ม มีอยู่สองด้าน ด้านหนึ่งเป็นทิวเขาสลับกันไปไกลสุดลูกหูลูกตา อีกด้านก็จะเป็นไร่ปลูกพืชต่างๆของโครงการหลวง ซึ่งจะเปลี่ยนพืชพรรณไปตามฤดูกาล

17. โมโกจู อุทยานแห่งชาติแม่วงก์
รวมที่เที่ยวหน้าหนาว นักท่องเที่ยวห้ามพลาด!
กิเลสแห่งการเดินทางไม่เคยสิ้นสุด แม้จะ “ยิ่งสูง ยิ่งหนาว” แต่ “ยิ่งสวย ก็ยิ่งอยากเห็น” มนุษย์นี่แหละน้าไม่เคยหยุดดั้นด้น ต่อให้ต้องข้ามเขาจนขาพับขาอ่อนก็ไม่ยอมแพ้ ขอแค่สายตาได้แลในสิ่งที่อยากเห็น และที่เที่ยวชวนสัมผัสช่วงหน้าหนาวอย่าง ยอดเขา โมโกจู อีกหนึ่งบทพิสูจน์ของการเดินทาง
ด้วยความสูง 1,964 เมตร จากระดับน้ำทะเล โมโกจู จึงเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดใน อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จังหวัดกำแพงเพชร คำว่า โมโกจู มาจากภาษากะเหรี่ยง แปลว่า “เหมือนฝนจะตก” เนื่อง จากมีหมอกปกคลุมจัดบนยอดเขา โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว เย็นยะเยือก ควันออกปาก พ่นเล่นกันได้ทั้งวัน มองจากยอดเขาลงไปก็จะเห็นทะเลหมอกแห่งป่าตะวันตกอันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา

18. หมู่บ้านคีรีวง นครศรีธรรมราช
รวมที่เที่ยวหน้าหนาว นักท่องเที่ยวห้ามพลาด!
หมู่บ้านคีรีวง ตั้งอยู่ที่ ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช แม้ที่นี่จะไม่ได้อยู่ตอนเหนือของประเทศก็ตาม แต่ธรรมชาติที่สวยงามอยู่ในท่ามกลางธรรมชาติ ย่อมน่าสนใจไม่ใช่น้อยๆ ที่นี่เป็นชุมชนเก่าแก่ที่อพยพไปอาศัยอยู่เชิงเขาหลวง ตำบลกำโลน อันเป็นเส้นทางเดินขึ้นสู่ยอดเขาหลวง ชาวบ้านมีวิถีชีวิตที่สงบสังคมแบบเครือญาติ
จุดเด่นของหมู่บ้านคีรีวง ก็คือ ทัศนียภาพแห่งธรรมชาติ เพราะคีรีวงตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขา ป่าไม้ และสายน้ำ ถ้าหากว่าใครต้องการที่จะไปเที่ยวที่นี่ กิจกรรมที่น่าสนใจในหมู่บ้านคีรีวง ได้แก่ การพักในที่พักแบบโฮมสเตย์ การลองชิมอาหารพื้นเมือง ฯลฯ

19. สิงห์พาร์ค เชียงราย
รวมที่เที่ยวหน้าหนาว นักท่องเที่ยวห้ามพลาด!
จ.เชียงราย ถือเป็นอีกหนึ่งสุดยอดไฮไลท์การท่องเที่ยวหน้าหนาวที่ใครต่อใครก็ ต้องมาเมื่อมีโอกาส และดูเหมือนว่า ภาพเชียงรายกับการท่องเที่ยวนับจากนี้ก็คงถึงคราวเปลี่ยนโฉม อีกครั้ง เมื่อ บุญรอด เทรดดิ้ง ได้พัฒนาปรับปรุงไร่บุญรอดเดิม บนพื้นที่ริม ถ.สายเด่นห้า-ดงมะดะ ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย ที่มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาลกว่า 8,600 ไร่ ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร พร้อมด้วยกิจกรรมสันทนาการหลากหลาย ในชื่อใหม่ไฉไลว่า “สิงห์พาร์ค เชียงราย” ที่ จะรวมทั้งบรรยากาศของไร่เกษตรอินทรีย์ ที่ให้ผลผลิตเก็บเกี่ยวตลอดทั้งปี ดื่มด่ำการพักผ่อนท่ามกลางทิวทัศน์ขุนเขาอันสุดวิเศษพร้อมเมนูอาหารรสเลิศ และเต็มอิ่มกับกิจกรรมพิเศษ ที่ถูกใจคอเอ็กซ์ตรีม สามสิ่งที่ดูเหมือนมีความต่างจึงถูกสร้างให้เกิดขึ้นบนพื้นที่เดียวกันอย่างลงตัว

20. สามเหลี่ยมทองคำ จ.เชียงราย
รวมที่เที่ยวหน้าหนาว นักท่องเที่ยวห้ามพลาด!
อยู่ห่างจากอำเภอแม่สายประมาณ 28 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข ๑๒๙๐ เป็นบริเวณที่แม่น้ำโขงและแม่น้ำรวกมาบรรจบกัน หรือที่เรียกว่า สบรวก เป็นพรมแดนระหว่างประเทศไทย ลาว พม่า บริเวณนี้ในอดีตเคยมีการค้าฝิ่น โดยแลกเปลี่ยนกับทองคำ แต่ปัจจุบันได้กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงบริเวณนี้มีความงดงามโดยเฉพาะยามเช้าที่ดวงอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางสายหมอกด้านฝั่งพม่า และลาว นักท่องเที่ยวนิยมนั่งเรือเที่ยวชมทิวทัศน์จุดบรรจบของพรมแดนไทย ลาว และพม่า
ถ้าต้องการนั่งชมทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำโขงไปไกลถึงเชียงแสนและเชียงของ ก็สามารถหาเช่าเรือได้ แต่ค่าเรือขึ้นอยู่กับระยะทางใกล้ไกล นักท่องเที่ยวที่สนใจล่องแม่น้ำโขงไปเที่ยวทางตอนใต้ของประเทศจีน เช่น สิบสองปันนา คุนหมิง สามารถติดต่อกับบริษัทนำเที่ยวในจังหวัดเชียงรายได้ หากต้องการจะชมทิวทัศน์มุมกว้างของสามเหลี่ยมทองคำบริเวณสบรวกและเพื่อนบ้าน ต้องขึ้นไปบนดอยเชียงเมี่ยง ที่อยู่ริมแม่น้ำโขง

หวังว่าสมาชิกมิตรรักทุกท่าน คงได้ที่เที่ยวโดนใจในหน้าหนาวกันบ้างแล้ว สุดท้ายขอให้ทุกท่าน วางโปรแกรมเที่ยวให้สะดวก เที่ยวสนุกอย่างมีความสุข และขอให้เดินทางปลอดภัยกันทุกคนนะครับ สวัสดี.. :)