อีกวาซู เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดใหญ่กว่าน้ำตกไนแองการาถึง 30 เท่า
เข้าเมืองโน้น ออกเมืองนี้ เพราะหัวใจยังไม่อยากหยุดพัก เลยฉุดกระชากให้เท้านั้นก้าวต่อไป เมืองริโอ เดอ จาเนโร นอกจากแลนด์มาร์กรูปสลักพระเยซูอันสูงตระหง่าน ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมากกว่าล้านคนต่อปีแล้ว เมืองนี้ยังมีชายหาดที่สวยงามเช่นกัน เลยขอเปลี่ยนชุด นุ่งกระโปรงบานลงไปพริ้ว ย่ำผืนทรายของชาวละตินดูสักครั้ง
Copacabana Beach (หาดโคปาคาบานา) เป็นชายหาดเลื่องชื่อของประเทศบราซิล ถึงแม้ว่าความยาวของชายหาดจะเพียงแค่ประมาณ 4 กิโลเมตร แต่ก็ถือว่าเป็นย่านที่หรูที่สุดของเมือง ริโอ เดอ จาเนโร ซึ่งมีทั้งโรงแรมระดับห้าดาว ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านค้า มากมาย หนุ่มสาวชาวแซมบ้า และนักท่องเที่ยวนิยมที่จะมาพักผ่อนนอนอาบแดดกันเต็มผืนทราย รวมถึงกิจกรรมกีฬาชายหาดอย่างวอลเล่บอลก็มีให้เห็นหลายกลุ่ม โดยเฉพาะทีมของหนุ่มแซมบ้ากล้ามโต ที่วิ่งรับวิ่งเก็บลูกบอลทำให้ชายหาดแห่งนี้ดูมีสีสันมากทีเดียว
หลังจากเพลิดเพลินกับบรรยากาศริมหาดทรายจนตัวเริ่มจะไหม้แล้ว ก็รีบล้างกายแต่งเนื้อแต่งตัวใหม่เพื่อมุ่งหน้าสู่แหล่งน้ำจืดกันบ้าง เพราะอยากเดินทางไปดูน้ำตกที่เคยได้ยินแต่ชื่ออย่าง อีกวาซูว่าจะสวยอย่างคำล่ำลือหรือไม่
Iguacu (อีกวาซู) ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ บริเวณรอยต่อพรมแดน ระหว่างประเทศบราซิลกับอาร์เจนตินา เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และมีขนาดใหญ่กว่าน้ำตกไนแองการาถึง 30 เท่าแนวยาวกว่า 4 กิโลเมตร ความสูงกว่า 269 ฟุต ประกอบด้วยน้ำตกน้อยใหญ่อีกกว่า 275 แห่ง บริเวณโดยรอบน้ำตกจะมีละอองน้ำสาดกระเส็นอยู่ตลอดเวลา และมีทางเดินเป็นแนวยาวเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสกับความงามของน้ำตก ได้อย่างใกล้ชิด แต่ควรสวมเสื้อกันฝนหรือมีสิ่งป้องกันละอองของสายน้ำติดไปด้วย ไปงั้นกว่าจะซึมซับกับบรรยากาศโดยรอบอาจจะเปียกซะก่อน
ประเทศบราซิลนี้ไม่ธรรมดาซะแล้ว นอกจากมีประเทศที่ใหญ่ติดอันดับโลกแล้ว ยังมีสถานที่ที่ใหญ่ติดอันดับโลกอยู่หลายแห่งเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลก แต่ก็ติดอันดับสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคปัจจุบันอย่าง น้ำตกอีกวาซูที่เพิ่งไปเปียกมะล่อกมะแล่กมา และยังมีอีกแห่งคือ เขื่อนอิไตปู
Itaipu (อิไตปู) เขื่อนอิไตปูเป็นเขื่อนคอนกรีตขนาดใหญ่ ซึ่งแต่ในอดีตนั้นจัดว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ก่อนที่เขื่อนในประเทศจีนจะมีการก่อสร้างเสร็จ เขื่อนอิไตปูสร้างในปีค.ศ.1984 แล้วเสร็จในปีค.ศ.1988 รวมระยะเวลาการก่อสร้าง 4 ปี คำว่า “อิไตปู” มาจากภาษากวารานิของชาวอินเดียนแดงชนเผ่าดั้งเดิม แปลว่า “เสียงเพลงจากก้อนหิน” แหม…คำแปลช่างโรแมนติกเสียจริง
เขื่อนอิไตปู กั้นแม่น้ำปารานาบริเวณเขตแดนระหว่างประเทศบราซิลกับประเทศปารากวัย ซึ่งนอกจากเป็นผนังกั้นน้ำและผลิตกระแสไฟฟ้าแล้ว ยังเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างสองประเทศอีกด้วย ตัวเขื่อนมีขนาดความสูง 180 เมตร ความยาวกว่า 8 กิโลเมตร ใช้คอนกรีตในการก่อสร้างกว่า 28 ล้านตัน และใช้เหล็กมากขนาดที่ว่าใช้สร้างหอไอเฟลได้ถึง 380 หอเลยทีเดียว ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวไม่น้อย เนื่องจากความอลังการของเขื่อนแห่งนี้ ขอคอนเฟิร์มว่ามันใหญ่จริงๆ
การเดินทางเยือนถิ่นแซมบ้ายังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ อากาศดีๆ ก็เลยอยากชิวในอ้อมกอดแห่งขุนเขาอีกสักครั้ง จึงขอปีนป่ายไปแนบชิดยอดเขาที่ชื่อหวานหยดย้อย และขอเหยียบย่ำดวงจันทร์ในแดนบราซิล ส่วนจะเป็นที่ใดนั้น ต้องเดินทางต่อไปด้วยกันในตอนหน้า
เรื่องโดย Omyim
บทความน่าอ่านจาก http://www.emaginfo.com ร่วมกับ travel.mthai.com
ข้อมูลจาก : http://travel.mthai.com/
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น