หน้าเว็บ

วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

นั่นไง ดอยเสมอดาว อัญมณีล้ำค่าจากแดนดินเมืองน่าน

ป่านั้น คือ มณีมีค่าอนันต์
ป่าคง พงไพร ไทยยั่งยืน..
เนื้อความข้างต้นคือป้ายขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัด “น่าน” จังหวัดที่อุดมไปด้วยอัญมณีล้ำค่าทางธรรมชาติ ที่หาไม่ได้ง่ายๆ และเป็นจุดหมายปลายทางของเราในครั้งนี้
นั่นไง ดอยเสมอดาว อัญมณีล้ำค่าจากแดนดินเมืองน่าน
น่าน นอกจากจะโด่งดังในเรื่องของการที่ผู้คนยังคงมีวิถีชีวิตแบบโบราณ และมีสภาพบ้านเมืองสวยดั่งหลวงพระบางเมื่อ 10 ปีก่อน จังหวัดแห่งนี้ยังมียอดดอยสวยที่กำลังจะพาคุณมาเอื้อมมือคว้าดาวกันบน “ ดอยเสมอดาว ”
นั่นไง ดอยเสมอดาว อัญมณีล้ำค่าจากแดนดินเมืองน่าน
สำหรับดอยที่เราพาคุณมาสอยดาวในงวดนี้ นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวกางเต็นท์พักแรมยอดฮิตอีกแห่งหนึ่ง ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน เนื่องจากเป็นบริเวณจุดชมวิวอีกที่มีพื้นที่เป็นลานกว้างตามสันเขา เหมาะสำหรับการพักผ่อน นอนดูดาวยามอาทิตย์อัสดง และชมทะเลหมอกพร้อมตะวันโด่งในยามเช้า
อุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีสภาพเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน วางตัวในแนวทิศเหนือ-ใต้ เป็นป่าต้นน้ำลำธาร ที่สำคัญของแม่น้ำน่าน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของคนในจังหวัด มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญหลายอย่าง และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า มีจุดเด่นทางธรรมชาติ ที่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ซึ่งทำให้อุทยานแห่งนี้มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายแห่ง เช่น เสาดินและคอกเสือ ปากนาย แก่งหลวง จุดชมทิวทัศน์ดอยผาชู้ ทิวทัศน์ทั้งสองฝั่งแม่น้ำน่าน จุดชมวิว ดอยเสมอดาว และผาหัวสิงห์
นั่นไง ดอยเสมอดาว อัญมณีล้ำค่าจากแดนดินเมืองน่าน
ในเรื่องของการเดินทางมายังอุทยานแห่งชาติศรีน่าน เพื่อขึ้นมานอนนับดาวและแหวกว่ายทะเลหมอกก็ไม่ยากลำบาก หากขับรถยนต์ส่วนตัวมาเอง ให้วิ่งตามทางหลวงหมายเลข 1083 สายนาน้อย-ปางไฮ ระหว่างทางมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเทือกเขาที่อยู่ในเขตอุทยาน และแม่น้ำน่านที่ไหล คดเคี้ยว ได้อย่างชัดเจน แม่น้ำน่านจะไหลผ่านอุทยาน ไปจนถึงอำเภอปากนาย และป่าที่นี่ส่วนหนึ่งเป็นป่าเบญจพรรณ
ฉะนั้นในเดือนกุมภาพันธ์จะเห็นป่าเปลี่ยนสีสวยงามมาก ส่วนผู้ที่ใช้บริการรถประจำทางให้ใช้รถสายกรุงเทพฯ-น่าน ลงที่อำเภอเวียงสา แล้วต่อรถประจำทาง สายเวียงสา-นาน้อย-นาหมื่น ลงที่สามแยก บ้านใหม่ จากนั้นจึงเหมารถสองแถวเข้าอุทยานโลด
นั่นไง ดอยเสมอดาว อัญมณีล้ำค่าจากแดนดินเมืองน่าน
อากาศบน ดอยเสมอดาว ช่วงเวลาประมาณ 4 โมงเย็น ค่อนข้างร้อนจัดจนเหงื่อไหลไคลย้อย แต่ทันทีที่ท้องฟ้าเปลี่ยนสี อมส้มส้ม และเหลืองทองจางๆ อุณหภูมิรอบตัวก็กลับลดลงอย่างรวดเร็ว เหลืองเพียงสายลมเย็นๆ พัดผ่านผิวกายให้กลุ่มนักเดินทางผู้เคยหมกตัวในห้องแอร์ต้อง เป่าปากกันเป็นแถว
หลังจากรวมตัวทานอาหารเย็นที่เตรียมเอาไว้ เพียงไม่นาน พระอาทิตย์ก็เคลื่อนลอยต่ำลงไปอย่างรวดเร็ว จนเกือบจะเก็บภาพประทับใจไว้ไม่ทัน ขณะที่หลายคนหามุมสวย เพื่อถ่ายภาพแสงสุดท้ายของวัน ลมหนาวก็เริ่มพัดแรงขึ้นแม้ว่านี้จะเข้าใกล้ฤดูร้อน
กดชัตเตอร์ยังไม่ทันสะใจ แสงอาทิตย์ก็ลับไปกับขอบฟ้า แล้วความมืดมิดของรัตติกาลก็เดินทางมา พร้อมกับอุณหภูมิที่ลดต่ำลงเหลือประมาณ 18 องศา เมื่อมองไปบนฟากฟ้า ภาพที่เห็นคือ ม่านดวงดาวส่องแสงสว่างไสวทั่วทั้งฟ้า มันช่างสวยจับจิตจนแสงสีของเมืองกรุงที่ว่าแน่ยังต้องแพ้ราบคราบ
นั่นไง ดอยเสมอดาว อัญมณีล้ำค่าจากแดนดินเมืองน่าน
มวลหมู่ดาวที่พร่างพรายบนท้องฟ้า ช่วยไขข้อข้องใจว่าเหตุใด ชื่อดอยแห่งนี้จึงมีชื่อ เสมอดาว ความรู้สึกอยากใช้มือไขว่ความดาวมาเก็บไว้ในกระเป๋า เป็นสิ่งที่เราเห็นได้จากอาการของนักเดินทางหลายคนที่ เหม่อมองฟ้าแล้วใช้มือโบกไปมา
ความสวยงามยามค่ำคืนบนดอยเสมอดาว เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ชาตินี้คงไม่ลืม แต่ด้วยอุณหภูมิที่ลดต่ำลงเรื่อยๆ จนเฉียด 12 องศา ได้ทำเอาหลายคนต้องขอนอนขดตัวอยู่ในผ้าห่มทั้งคืน
เวลาราวๆ ตี 5 หลายคนเริ่มตื่นจากการหลับใหล ซึ่งเมื่อใช้มือแตะที่ถุงนอน คุณจะรู้สึกเลยว่า แม้แต่ถุงนอนอุ่นๆ ก็ยังเย็นยะเยือก เมื่อรูดซิปเต้นท์แล้วเดินฝ่าลมเย็นๆ ไปยังจุดชมวิว สิ่งที่ทำให้เราถึงกับอึ้งจนเสียงในลำคอร้องเปล่งออกมาว่า โหหห..คือภาพของ ทะเลหมอก ที่สวยงาม
สายลมหนาวยังคงปะทะกาย แล้วแสงแรกแห่งวันก็มาถึง ความงามของรุ่งอรุณที่ค่อยๆ ไล่ไอหมอกให้จางหายไป เป็นสิ่งที่คุ้มค่าสมแก่การรอคอย และตื่นตั้งแต่ไก่โห่แบบที่ไม่ค่อยทำมาหลายปี
นั่นไง ดอยเสมอดาว อัญมณีล้ำค่าจากแดนดินเมืองน่าน

ไอแดดอ่อนๆ ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนออกมายืนเหวี่ยงแขนเหวี่ยงขา เพื่อวอร์มร่างกายให้อบอุ่น จากนั้นทริปสั้นๆ ที่พอจะทำให้เราจดจำไปตลอดชีวิต ก็มาถึงจุดที่ทุกคนไม่ต้องการ นั่นคือช่วงที่เราต้องลงจากเขาแล้วโบกมือลาอัญมณีแห่งเมืองน่าน
แน่นนอนว่า ทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา แต่ถึงอย่างไรดินแดนที่สวยงามแห่งนี้จะไม่จากไปไหน หากเราทุกคนเรียนรู้ที่จะดูแลและรักษาธรรมชาติ สำหรับวันนี้คงต้องขอลาแต่สัญญาว่า ทริปหน้าจะพาคุณไปสัมผัสกับความงดงามที่มากมายไม่แพ้กัน

บทความน่าอ่านจาก http://www.emaginfo.com ร่วมกับ travel.mthai.com
www.emaginfo.com


ข้อมูลจาก : http://travel.mthai.com/ 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น